วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

โครงสร้างและหน้าที่ของต้น

โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
ลักษณะทั่วไปของลำต้น
    ลำต้น (stem) เป็นอวัยวะของพืชซึ่งส่วนใหญ่จะเจริญขึ้นมาเหนือดินแต่ก็มีพืชบางชนิดที่ลำ ต้นอยู่ใต้ดินลำต้นประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนคือ
     1. ข้อ(node) เป็นส่วนของลำต้นที่มีตา(bud)ซึ่งจะเจริญไปเป็นกิ่ง ดอก หรือใบ
     2.ปล้อง(internode) เป็นส่วนของลำต้นที่อยู่ระหว่างข้อ
    พืชใบเลี้ยงเดี่ยวจะสังเกตส่วนของข้อปล้องได้อย่างชัดเจนตลอดชีวิตเช่นต้นไผ่ต้นอ้อยข้าวโพดเป็นต้นส่วนพืชใบเลี้ยงคู่นั้นส่วนใหญ่แล้วข้อปล้องจะสังเกตได้ไม่ชัดเจนทั้งนี้ เพราะเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แล้วมักจะมีเนื้อเยื่อชั้นคอร์ก(cork) มาหุ้มโดยรอบเอาไว้การจะสังเกตอาจจะสังเกตในขณะที่พืชยังอ่อนอยู่แต่ก็ยังมีพืชใบเลี้ยงคู่บางชนิดที่สามารถสังเกตเห็นข้อปล้องได้อย่างชัดเจน ตลอดชีวิตเหมือนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ได้แก่พวกไม้ล้มลุกต่างๆ  เช่น  ต้นตำลึง  ฟักทองและผักบุ้ง เป็นต้น

โครงสร้างของลำต้น
    1.โครงสร้างภายในของปลายยอดพืช
บริเวณปลายยอดพืชสามารถแบ่งออกเป็นบริเวณ(region/zone) ได้ทั้งหมด 3 บริเวณด้วยกันคือ 
        1.บริเวณเซลล์แบ่งตัว(region of cell division)
        2.บริเวณเซลล์ยืดตัว(region of cell elongation)
        3.บริเวณเซลล์เจริญเต็มที่ (region of maturation)
    2.โครงสร้างภายในของลำต้นที่ตัดตามขวาง
เมื่อนำปลายยอดของพืชมาตัดตามขวางบริเวณเซลล์เจริญเต็มที่จะพบว่าโครงสร้าง ภายในประกอบด้วยเนื้อเยื่อชนิดต่างๆตามแต่ชนิดของพืชโดยแบ่งได้ดังนี้
       2.1.โครงสร้างภายในของลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่
      epidermis  เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ชั้นนอกสุด ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายให้แก่เนื้อเยื่อภายในของลำต้นส่วนใหญ่เซลล์เรียงตัวเพียงชั้นเดียวพืชบางชนิด epidermis มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นส่วนของ trichome / hair และ guard cell ในต้นพืชที่อายุมากส่วนใหญ่แล้วส่วนของ epidermis จะหลุดหายไปเพราะถูกแทนที่ด้วยส่วนของคอร์ก
      cortex   คอร์เทกซ์เป็นชั้นของลำต้นที่มีอาณาเขตตั้งแต่ใต้ epidermis เข้ามาจนถึงเนื้อเยื่อเอนโดเดอมิส(endodermis) ดังนั้นในชั้นคอร์เทกซ์จึงประกอบด้วยเนื้อเยื่อชนิดต่างๆได้แก่
                       ชนิด                       รายละเอียด และ หน้าที่
                 parenchyma                 เป็นเนื้อเยื่อส่วนใหญ่ที่พบภายในลำต้น
                 chlorenchyma              ทำหน้าที่ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
                 aerenchyma                  ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสะสมอากาศโดยเฉพาะพืชน้ำ   
                 collenchyma                เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ลำต้น
                 sclerenchyma(fiber)    ให้ความแข็งแรงแก่ลำต้น
      stele (สตีล)   สตีลเป็นชั้นที่ถัดเข้ามาจากชั้นคอร์เทกซ์โดยมีอาณาเขตตั้งแต่ใต้ endodermis เข้ามาจนถึงใจกลางของลำต้นแต่เนื่องจากในลำต้นเนื้อเยื่อendodermis ส่วนใหญ่เห็นได้ไม่ชัดเจนหรือหนังสือบางเล่มก็กล่าวว่าในลำต้นจะไม่มีเนื้อ เยื่อ endodermis ทำให้ชั้นสตีลในลำต้นแบ่งแยกออกจากชั้นคอร์เทกซ์ได้ไม่ชัดเจนเหมือนในส่วน ของรากพืชภายในชั้นสตีลจะประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่สำคัญคือ
      vascular bundle หมายถึงกลุ่มของเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการลำเลียงภายในเนื้อเยื่อ vascular bundle ของพืชใบเลี้ยงคู่ประกอบด้วย กลุ่มเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร(phloem)เรียงตัวอยู่ทางด้านนอกและกลุ่มเนื้อ เยื่อลำเลียงน้ำ(xylem)เรียงตัวอยู่ทางด้านในหรือด้านที่ติดกับ pith ระหว่าง xylem กับ phloem จะมีเนื้อเยื่อเจริญที่เรียกว่า vascular cambium คั่นกลางอยู่ทำหน้าที่แบ่งเซลล์เพื่อให้กำเนิด xylem และ phloem
      pith เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ส่วนกลางของลำต้นส่วนใหญ่เป็นเนื้อเยื่อประเภท parenchyma จึงทำหน้าที่ในการสะสมสารต่างๆลำต้นของพืชใบเลี้ยงคู่บางชนิดเนื้อเยื่อในส่วนนี้อาจสลายไปกลายเป็น ช่องกลวงกลางลำต้นเรียกช่องนี้ว่า pith cavity
       2.2โครงสร้างภายในของลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
      epidermis  เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ชั้นนอกสุด ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายให้แก่เนื้อเยื่อภาย ในของลำต้นส่วนใหญ่เซลล์เรียงตัวเพียงชั้นเดียวและมีอยู่ตลอดไป ยกเว้นในต้นพืชตระกูลปาล์มจะมีเฉพาะในปีแรกเท่านั้นเพราะต่อมาจะมีเนื้อเยื่อคอร์ก (cork) มาแทน
      cortex  มีเนื้อเยื่อบางๆ1-2 ชั้น ส่วนใหญ่เป็นเนื้อเยื่อชนิด parenchyma และส่วนใหญ่ไม่พบ endodermis ทำให้อาณาเขตแบ่งได้ไม่ชัดเจน
       stele vascular bundle  กลุ่มของเนื้อเยื่อลำเลียงของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ส่วนของ xylem, phloem จะเรียงตัวกันมองคล้ายๆใบหน้าคนมีส่วนของ vessel อยู่บริเวณคล้ายดวงตาส่วน phloem อยู่บริเวณคล้ายหน้าผาก xylem และ phloem จะถูกล้อมรอบด้วยเนื้อเยื่อ parenchyma หรืออาจเป็น sclerenchyma และเรียกเซลล์ที่มาล้อมรอบนี้ว่า bundle sheath vascular bundle ของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวส่วนใหญ่ไม่พบเนื้อเยื่อเจริญ vascular cambium ยกเว้นหมากผู้หมากเมียและพืชตระกูลปาล์ม 
       pith  เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ส่วนกลางของลำต้นส่วนใหญ่เป็นเนื้อเยื่อประเภท parenchyma พืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด เช่น ข้าวโพดในเนื้อเยื่อของ pith นี้จะพบ vascular bundle กระจายอยู่เต็มนอกจากนี้พืชบางชนิดเนื้อเยื่อในส่วนนี้อาจสลายไปกลายเป็นช่องกลวงกลางลำ ต้นเรียกว่า pith cavity เช่น  ต้นไผ่  ต้นข้าวเป็นต้น





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น